แพทย์ถูกจับได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพยาบาล ระหว่างทิ้งคนไข้ไว้กลางการผ่าตัด ในขณะที่ผู้ป่วยยังอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาสลบ

ศาลไต่สวนทางการแพทย์กำลังพิจารณาคดีของ นพ.ซูฮาอิล อันจุม วิสัญญีแพทย์อาวุโสแห่งโรงพยาบาลเทมไซด์ เมืองแอชตัน-อันเดอร์-ไลน์ ประเทศอังกฤษ หลังเขาถูกจับได้ว่าหยุดพักกลางการผ่าตัดเพื่อไปมีเพศสัมพันธ์กับพยาบาล C (นามสมมุติ) โดยทั้งคู่ถูกเพื่อนร่วมงานพบในท่าทางที่ “ไม่เหมาะสม” ภายในห้องผ่าตัด

จากการไต่สวนพบว่า ขณะนั้นผู้ป่วยได้ถูกวางยาสลบเตรียมเข้ารับการผ่าตัด แต่ นพ.อันจุมได้ขอให้พยาบาลอีกคนช่วยเฝ้าดูอาการผู้ป่วยแทน ก่อนตัวเองจะออกจากห้องโดยอ้างว่าไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับไปมีสัมพันธ์กับพยาบาล C

แทนที่จะกลับเข้าห้องผ่าตัดตามปกติ เขากลับเดินไปยังห้องผ่าตัดอีกแห่งหนึ่ง และถูกพยาบาลรายหนึ่งจับได้ ขณะพบว่า นพ.อันจุม และ พยาบาล C กำลังอยู่ในท่าทาง “ไม่เหมาะสม” ซึ่งพยาบาลผู้นั้นได้ให้การต่อศาลไต่สวนด้วย

พยาบาลที่พบเหตุการณ์ ซึ่งระบุชื่อว่า พยาบาล NT ให้การต่อศาลว่า เธอเห็นพยาบาลหญิงอยู่ในสภาพ “กางเกงถูกถอดลงมาถึงระดับเข่า ชุดชั้นในโผล่ออกมาให้เห็น” ส่วนแพทย์นั้น “กำลังผูกเชือกกางเกงของตนเองอยู่”

พยาบาล NT รีบออกจากห้องทันทีหลังเห็นเหตุการณ์ ส่วน นพ.อันจุม วัย 44 ปี กลับเข้าไปยังห้องผ่าตัดหลังจากหายไปประมาณ 8 นาที

ศาลไต่สวนระบุว่า “เป็นความจริงที่ว่าผู้ป่วยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ขณะนพ.อันจุมไม่อยู่ในห้อง และการผ่าตัดดำเนินต่อไปโดยไม่มีเหตุผิดปกติ”

มีการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2023 นพ.อันจุมรับหน้าที่เป็นวิสัญญีแพทย์ในการผ่าตัดทั้งหมด 5 เคสที่ห้องผ่าตัดหมายเลข 5 และเขาได้ออกจากห้องระหว่างเคสที่ 3

นพ.อันจุมไม่ได้ปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหา และยอมรับว่าได้มีสัมพันธ์ทางเพศกับพยาบาล C โดยระบุว่าเขาทราบดีว่าตอนออกจากห้องผู้ป่วยในระหว่างผ่าตัด “เธอน่าจะอยู่ใกล้ ๆ”

เขายอมรับว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ให้เหตุผลว่าเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวเผชิญความเครียดอย่างหนัก เนื่องจากเขากับภรรยา ซึ่งไม่ใช่พยาบาล C กำลังมีปัญหาในความสัมพันธ์หลังจากการคลอดก่อนกำหนดของบุตรสาว

นพ.อันจุมได้ลาออกจากโรงพยาบาลเทมไซด์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และเดินทางกลับปากีสถานบ้านเกิด แต่ได้ให้การต่อศาลไต่สวนว่า เขาต้องการกลับมาทำงานแพทย์ในสหราชอาณาจักรอีกครั้ง พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่ทำ “ความผิดพลาดจากการตัดสินใจเพียงครั้งเดียว” แบบนี้ซ้ำอีก

เขากล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง ผมโทษได้เพียงตัวเอง ผมทำให้ทุกคนผิดหวัง ไม่เพียงแต่คนไข้และตัวผมเอง แต่รวมถึงความไว้วางใจและภาพลักษณ์ที่เสียหาย ผมทำให้เพื่อนร่วมงานที่เคยให้ความเคารพต้องผิดหวัง”

การไต่สวนยังคงดำเนินต่อในวันที่ 12 กันยายน ที่เมืองแมนเชสเตอร์ โดยคณะกรรมการจะพิจารณาว่า แพทย์รายนี้ยังเหมาะสมที่จะประกอบวิชาชีพต่อไปหรือไม่ จากกรณีการประพฤติผิดครั้งนี้